โครงการการพัฒนาลวดลายผ้าทอให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้ในเชิงพาณิชย์
ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : อ.ธรรมนูญ พัดมะนา
SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อยความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค
แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน
กลุ่มเป้าหมาย : ชุมชน
พื้นที่ดำเนินงาน : บ้านท่าตูม ตำบล ท่าตูม อำเภอ เมืองมหาสารคาม จังหวัด มหาสารคาม 44000
ระยะเวลาดำเนินงาน : 8 กรกฎาคม 3111 – 8 ธันวาคม 3111
วัตถุประสงค์โครงการ :
1. เพื่อพัฒนาลวดลายผ้าทอภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้มีความร่วมสมัย สวยงาม และเป็นที่ต้องการ ของตลาด
2. เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับชุมชน โดยการถ่ายทอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอให้ มีคุณภาพและมูลค่าเพิ่ม สามารถผลิตและจำหน่ายได้ในเชิงพาณิชย์
กิจกรรมหลัก :
ต้นน้ำ การฝึกอบรมการออกแบบลวดลายผ้า ให้เป็นที่ต้องการของตลาด
กลางน้ำ การฝึกอบรมกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับผลิตและจำหน่ายได้ในเชิงพาณิชย์
ปลายน้ำ การฝึกอบรมการจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 60 คน
งบประมาณที่ใช้ : 270,000 บาท
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
แนวทางการพัฒนาลวดลายผ้าทอ ให้สามารถผลิตและจำหน่ายได้ในเชิงพาณิชย์
ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
ด้านเศรษฐกิจ การออกแบบที่ทันสมัย การผลิตที่มีประสิทธิภาพ และการเข้าถึงตลาดออนไลน์ จะช่วยให้ผ้าทอขายได้มากขึ้นและมีมูลค่าสูงขึ้น ส่งผลให้ครัวเรือนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ด้านสังคม เมื่อผลิตภัณฑ์ผ้าทอของชุมชนเป็นที่ยอมรับและสร้างรายได้ ผู้คนในชุมชนจะเกิดความภาคภูมิใจในฝีมือ ภูมิปัญญา และเอกลักษณ์ของตนเอง
ด้านการศึกษา ความรู้และทักษะที่ได้รับจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์และผู้ผลิตในชุมชน
ด้านสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ผ้าทอท้องถิ่นที่มีคุณภาพและกระบวนการผลิตที่โปร่งใส สามารถเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและต้องการสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อโลก
การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
นักศึกษา ได้ใช้เป็นกรณีตัวอย่างเพื่อการศึกษา
ความต่อเนื่องของโครงการ :
โครงการใหม่
ปัญหา/อุปสรรค :
ปัญหาหลักคือ โครงสร้างประชากรสูงอายุ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จเชิงพาณิชย์ เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 46 ปีขึ้นไป และมีการศึกษาจำกัด ทำให้เกิด อุปสรรคเชิงซ้อนด้านดิจิทัลและการปรับตัวเข้าสู่ตลาดสมัยใหม่ แม้จะมีประสบการณ์สูง แต่ความอ่อนล้าทางร่างกายกลับเป็นข้อจำกัดในการ ขยายกำลังการผลิตและการรักษามาตรฐานสินค้า อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความต่อเนื่องของกลุ่มในระยะยาว.
แนวทางการปรับปรุง :
เน้นการสนับสนุนแบบคู่ขนาน โดยใช้ ระบบคู่หูต่างวัย (Mentorship) เพื่อให้ผู้ทออาวุโสได้รับทักษะดิจิทัลและการขายออนไลน์อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการใช้ นวัตกรรมการผลิต เพื่อลดภาระทางร่างกายและรักษามาตรฐานสินค้า นอกจากนี้ ควรสร้างแรงจูงใจทางการเงินเพื่อส่งเสริม การถ่ายทอดภูมิปัญญา ไปสู่คนรุ่นใหม่ในชุมชนอย่างเป็นระบบ
ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
ความต่อเนื่อง สำคัญมาก