โครงการการยกระดับศักยภาพการผลิตผ้าท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก บ้านโคกล่าม อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม

โครงการการยกระดับศักยภาพการผลิตผ้าท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก บ้านโคกล่าม อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม

ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : ผศ.ดร.วสันต์ ปินะเต

SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อย

ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค

แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน

กลุ่มเป้าหมาย : ชุมชน

พื้นที่ดำเนินงาน : บ้านโคกล่าม ตำบล บรบือ อำเภอ บรบือ จังหวัด มหาสารคาม 44130

ระยะเวลาดำเนินงาน : 1 มกราคม 2568 – 31 สิงหาคม 2568

วัตถุประสงค์โครงการ :
1) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผ่านกระบวนการการมองภาพอนาคต (FORESIGHT)
2)เพื่อเสริมสนับสนุนให้คนในชุมชนสามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างสมดุลและมีความเหมาะสม สามารถดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ในมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม
3) เพื่อพัฒนาชุมชนต้นแบบ (Social Lab) ด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ต่อยอด ขยายผลการพัฒนาทั้งในเชิงประเด็น และเชิงพื้นที่

กิจกรรมหลัก :
กิจกรรมที่ 1 อบรมเชิงปฏิบัติการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและการออกแบบลวดลายผ้า
กิจกรรมที่ 2 อบรมเชิงปฏิบัติการ เพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
กิจกรรมที่ 3 อบรมเชิงปฏิบัติการ บูรณาการการสร้างผลิตภัณฑ์ผ้าสู่เชิงพาณิชย์

จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 40 คน

งบประมาณที่ใช้ : 428,444 บาท

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
1. Outcome เชิงเศรษฐกิจ
• ชุมชนสามารถผลิตผ้าท้องถิ่นที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้น ทำให้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และมีศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด
• ผู้เข้าร่วมสามารถต่อยอดความรู้ที่ได้รับไปสร้างผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า ของใช้ และของที่ระลึก ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือนและกลุ่มทอผ้า
• การใช้นวัตกรรมเครื่องกรอฝ้ายสแตนเลสและเครื่องทอผ้าโครงสแตนเลสช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มผลผลิตในระยะเวลาเท่าเดิม
2. Outcome เชิงสังคม
• เกิดการรวมกลุ่มของผู้ทอผ้าและครัวเรือนในชุมชน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และพัฒนาทักษะร่วมกัน
• ชุมชนได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคี ได้แก่ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบรบือ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทำให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นระบบ (Social Process)
• คนรุ่นใหม่ในชุมชนเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสานงานหัตถกรรมผ้า เพราะเครื่องมือและเทคโนโลยีมีความทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้น
3. Outcome เชิงคุณภาพชีวิต
• ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีแรงงานลดลงจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่เกิดภาระทางร่างกายมากเกินไป
• ครัวเรือนมีความมั่นใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าท้องถิ่น สามารถสร้างรายได้เสริม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
• เกิดแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ถูกต่อยอดให้มีมูลค่าและทันสมัย
4. Outcome เชิงชุมชนต้นแบบ (Social Lab)
• ชุมชนบ้านโคกล่ามสามารถพัฒนาผ้าท้องถิ่นไปสู่ ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและของใช้เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่
• เกิดต้นแบบกระบวนการพัฒนาผ้าท้องถิ่นครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ (การผลิตเส้นใยและการออกแบบ) กลางน้ำ (การใช้เครื่องมือสมัยใหม่) จนถึงปลายน้ำ (การสร้างผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และการตลาดดิจิทัล)
• ชุมชนบ้านโคกล่ามสามารถเป็น “ชุมชนต้นแบบด้านสิ่งทอ” ที่ขยายผลได้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดมหาสารคามและภูมิภาคอีสาน

ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
• ชุมชนบ้านโคกล่ามสามารถพัฒนาผ้าท้องถิ่นไปสู่ ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและของใช้เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่
• เกิดต้นแบบกระบวนการพัฒนาผ้าท้องถิ่นครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ (การผลิตเส้นใยและการออกแบบ) กลางน้ำ (การใช้เครื่องมือสมัยใหม่) จนถึงปลายน้ำ (การสร้างผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และการตลาดดิจิทัล)
• ชุมชนบ้านโคกล่ามสามารถเป็น “ชุมชนต้นแบบด้านสิ่งทอ” ที่ขยายผลได้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดมหาสารคามและภูมิภาคอีสาน

การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
-

ความต่อเนื่องของโครงการ :
-

ปัญหา/อุปสรรค :
การดำเนินโครงการย่อยที่ 3 แม้จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่ยังพบปัญหาและอุปสรรคบางประการ ได้แก่ ผู้เข้าร่วมบางส่วนยังมีข้อจำกัดด้านทักษะพื้นฐาน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และทักษะด้านการตลาดดิจิทัล ทำให้ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนมากกว่าที่วางแผนไว้ อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์สำหรับการฝึกปฏิบัติยังมีไม่เพียงพอและไม่หลากหลาย ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมบางกลุ่มไม่ได้รับโอกาสในการทดลองอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มีภาระงานในครัวเรือนและการเกษตร ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ครบถ้วนตามกำหนดการ ขณะเดียวกันการประสานงานกับหน่วยงานภาคีแม้จะมีความร่วมมือที่ดี แต่บางกระบวนการยังคงใช้เวลานานและส่งผลให้การต่อยอดบางกิจกรรมยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบ

แนวทางการปรับปรุง :
-

ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
เพื่อให้การดำเนินโครงการในอนาคตมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนมากยิ่งขึ้น ควรจัดอบรมเชิงลึกหรือเวิร์กช็อปเพิ่มเติมเฉพาะด้าน เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การตลาดออนไลน์ และการสร้างแบรนด์สินค้า รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์และวัสดุให้เพียงพอและหลากหลายเพื่อรองรับการฝึกปฏิบัติที่เข้มข้น ควรกำหนดตารางเวลาอบรมที่ยืดหยุ่นมากขึ้น สอดคล้องกับวิถีชีวิตและภาระงานของคนในชุมชน และเสริมสร้างระบบการให้คำปรึกษาต่อเนื่องหลังการอบรม ทั้งในเชิงเทคนิคและการตลาด นอกจากนี้ควรสร้างกลไกการประสานงานกับหน่วยงานภาคีในรูปแบบคณะทำงานร่วม เพื่อให้การสนับสนุนและการต่อยอดกิจกรรมเป็นไปอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่อง และสามารถนำชุมชนบ้านโคกล่ามไปสู่การเป็นชุมชนต้นแบบด้านผ้าท้องถิ่นที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว

SDGs RMU