โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก คณะวิศวกรรมศาสตร์
ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : อ.ดร.ภาณุวัตร รื่นเรืองฤทธิ์
SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อยความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค
แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน
กลุ่มเป้าหมาย : ชุมชน
พื้นที่ดำเนินงาน : ตำบลห้วยแอ่ง ตำบล ห้วยแอ่ง อำเภอ เมืองมหาสารคาม จังหวัด มหาสารคาม 44000
ระยะเวลาดำเนินงาน : 1 มีนาคม 2568 – 31 สิงหาคม 2568
วัตถุประสงค์โครงการ :
1. เพื่อพัฒนารูปแบบและเทคโนโลยีการผลิตสินค้าทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
2. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตสินค้าแก่ชุมชนตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
3. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
กิจกรรมหลัก :
1. กิจกรรมย่อย ศึกษาข้อมูลพื้นฐานพร้อมปัญหาบนฐานความต้องการของชุมชน
2. กิจกรรมย่อย การพัฒนารูปแบบของการปลูกพืชน้ำน้อย
3. กิจกรรมย่อย การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตที่เหมาะสมและทันสมัย
3. กิจกรรมย่อย การส่งเสริมการการตลาด
4. ติดตาม ประเมินผลการพัฒนารูปแบบของการปลูกพืชน้ำน้อยและส่งเสริมการตลาด
5. รายงานและขยายผล
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 80 คน
งบประมาณที่ใช้ : 250,000 บาท
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
1. เกิดต้นแบบรูปแบบการปลูกพืชน้ำน้อยที่นำไปสู่การขยายผลในชุมชนอื่น ๆ และสามารถใช้เป็นต้นแบบการเรียนรู้ได้
2. ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ สะท้อนถึงความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ
3. เกิดช่องทางการตลาดใหม่ ทั้งในตลาดท้องถิ่นและออนไลน์ ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและมั่นคงขึ้น
4. หน่วยงานท้องถิ่นและสถาบัน การศึกษาได้รับองค์ความรู้และสามารถนำไปต่อยอดเชิงนโยบายหรือโครงการพัฒนาชุมชนอื่น ๆ ได้
5. ชุมชนมีเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และสถาบัน การศึกษา
6. เกษตรกรมีความรู้และทักษะในการปลูกพืชน้ำน้อย สามารถจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างเหมาะสมและลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ
7. เกษตรกรสามารถใช้เทคโนโลยี การเกษตรที่ทันสมัย เช่น ระบบน้ำหยดและแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต
ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
ด้านเศรษฐกิจ
1. เพิ่มมูลค่าของผลผลิตเกษตร
2. เปิดโอกาสทางการตลาดและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
ด้านสังคม
1. ผสมผสานความรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการเกษตรดั้งเดิม
2. สร้างต้นแบบที่สามารถขยายผลสู่ชุมชนอื่น
3. ส่งเสริมสุขภาพและยกระดับมาตรฐานชีวิตของคนในชุมชนด้านการศึกษา
1. นักศึกษาได้ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในศาสตร์ด้านวิศวกรรมในการพัฒนาชุมชนด้านการเกษตร
ด้านสิ่งแวดล้อม
1. เกิดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
บุคลากรและนักศึกษาได้ร่วมกันให้คำแนะนำและออกแบบแผนในการปลูกพืชน้ำน้อยแก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
ความต่อเนื่องของโครงการ :
ผู้รับผิดชอบโครงการได้มีการติดตามและลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่ได้จากการเข้าอบรมเพื่อนำไปพัฒนาอย่างต่อเนื่องของชุมชน
ปัญหา/อุปสรรค :
1. ปริมาณน้ำไม่เพียงพอและไม่สม่ำเสมอ ทำให้การปลูกพืชน้ำน้อยบางช่วงขาดแคลนน้ำ ถึงแม้จะใช้น้ำน้อยกว่านาข้าว แต่ยังต้องพึ่งพาแหล่งน้ำในชุมชน
2. ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถติดตั้งเทคโนโลยีหรือระบบ Smart Farming ครอบคลุมทุกแปลงเกษตรได้
3. เกษตรกรบางส่วน ยังขาดความรู้และทักษะด้านเทคนิคการปลูกพืชน้ำน้อย ที่ถูกต้อง ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัว
4. การนำเทคโนโลยีมาใช้ยังไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากเกษตรกรสูงอายุบางกลุ่มไม่ถนัดการใช้เครื่องมือดิจิทัลหรือระบบ IoT
5. เกษตรกรบางส่วน ยังไม่เชื่อมั่นในความคุ้มค่าของการเปลี่ยนจากนาปรังมาสู่พืชน้ำน้อย เพราะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิต
แนวทางการปรับปรุง :
1. ส่งเสริมการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ขุดบ่อกักเก็บน้ำขนาดเล็กในครัวเรือน และใช้ระบบน้ำหยดอัตโนมัติ
2. จัดหางบประมาณสนับสนุนจากหลายแหล่ง เช่น อปท., หน่วยงานเกษตร, กองทุนวิจัย และความร่วมมือภาคเอกชน
3. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความรู้ด้านการเพาะปลูกและการใช้เทคโนโลยี
4. ใช้สื่อการเรียนรู้แบบดิจิทัล เช่น คลิปวิดีโอ คู่มือออนไลน์ และแอปพลิเคชัน เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้ได้ทุกเวลา
5. ส่งเสริมการเปลี่ยนจากนาปรังสู่พืชน้ำน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจัดทำแปลงนำร่องและให้เกษตรกรเห็นผลจริงก่อนขยายผล
ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
อยากให้มหาวิทยาลัยมีการให้ความรู้ด้านเกษตรกรรมกับชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามเพิ่มมากขึ้น