โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน

โครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน

ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : ผศ.ดร.สัญญา เคณาภูมิ

SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อย

ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค

แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน

กลุ่มเป้าหมาย : ชุมชน

พื้นที่ดำเนินงาน : จังหวัดมหาสารคาม ตำบล ตลาด อำเภอ เมืองมหาสารคาม จังหวัด มหาสารคาม 44000

ระยะเวลาดำเนินงาน : 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 14 สิงหาคม 2568

วัตถุประสงค์โครงการ :
1. เพื่อใช้ศักยภาพของมหาวิทยาลัยในการบูรณาการองค์ความรู้นวัตกรรมในการบริหารจัดการทรัพยากรในชุมชนอย่างยั่งยืน
2. เพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านการจัดการทรัพยากรในชุมชน การหมุนเวียนการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรในชุมชนอย่างยั่งยืน
3. เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในการใช้ทรัพยากรร่วมกับชุมชนด้วยองค์ความรู้นวัตกรรมไปใช้จัดการกับปัญหาทรัพยากรที่ท้าทายเร่งด่วนในพื้นที่
4. เพื่อพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนในท้องถิ่น ให้มีระบบฐานข้อมูลทรัพยากรและเครือข่ายบูรณาการที่รับผิดชอบดูแลทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน

กิจกรรมหลัก :
กิจกรรมต้นน้ำ
ประชุมพิจารณาจัดสรรงบประมาณโครงการ
ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนา
ท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักที่ 4 โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน
กิจกรรมกลางน้ำ 1. โครงการยกระดับการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ชุมชน "ศูนย์การเรียนรู้นวัตวิถีชุมชนตำบลวังแสง"
2. โครงการศูนย์การเรียนรู้หมอลำจังหวัดมหาสารคาม
3. โครงการการพัฒนาการเป็นประกอบการการจัดการคาร์บอนสำหรับวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปพืชสวนและพืชน้ำสำราญโรจน์อ.แกดำ จ.มหาสารคาม
4. โครงการการสร้างชุมชนต้นแบบพัฒนาศูนย์เรียนรู้ความมั่นคงทางอาหาร ตำบลวังแสง อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
5. โครงการเสริมสร้างองค์ความรู้การแปรรูปสมุนไพร่ไทย ตำบลนาสีนวน
6. โครงการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน
7. โครงการพัฒนาระบบจัดการผลผลิตทางการเกษตรของศูนย์การเรียนรู้หนองบ่อแปลงสาธิตการเกษตรด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีแฟลตฟอร์มตลาดออนไลน์แก่เกษตรกรในชุมชน
8. โครงการจัดตั้งศูนย์กฎหมายเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
9. โครงการศูนย์จัดการขยะพลาสติกชุมชนต้นแบบ
10. โครงการการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านดำรงพัฒนา ตำบลนาเชือกอำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม
11. โครงการส่งเสริมการจัดการขยะสู่ศูนย์การเรียนรู้การจัดการขยะในชุมชน
12. โครงการกุดรังโมเดลศูนย์การเรียนรู้พลังงานสะอาดเพื่อชุมชนพอเพียง
13. โครงการหมู่บ้านราชภัฏตามศาสตร์แห่งพระราชา : การยกระดับผลิตภัณฑ์ผักปลอดภัยสู่มาตรฐาน GAP ของตำบล แก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
14. โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงอายุโรงเรียนวัยแก้ว ตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
15. โครงการศูนย์การจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาผ่านชุมชนการจัดการเรียนรู้วิชาชีพเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริบทพื้นที่การศึกษาจังหวัดมหาสารคาม
16. โครงการแหล่งเรียนรู้ชุมชนด้านเทคโนโลยีการเกษตร "รัก RMU รักชุมชน รักษ์โลก"
กิจกรรมปลายน้ำ
ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลกิจกรรม
ภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน
กลุ่มเป้าหมาย
1. สถานะกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ประชาชน บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และนักศึกษา
2. ปริมาณกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 2,318 คน ได้แก่
- ประชาชน 1,720 คน
- นักศึกษา 380 คน
- บุคลากรภายในมหาวิทยาลัย 218 คน
3. ระยะเวลา : ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 15 สิงหาคม 2568
4. พื้นที่กลุ่มเป้าหมาย : โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชน อย่างยั่งยืน มีโครงการย่อยทั้งหมด 17 โครงการ โดยดำเนินโครงการภายใน จังหวัดมหาสารคาม

จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 2318 คน

งบประมาณที่ใช้ : 2,000,000 บาท

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
โครงการได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ โดยมีการพัฒนาพื้นที่กายภาพให้มีความพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์ฯ มีการจัดทำนิทรรศการถาวรและสื่อการเรียนรู้ที่ครอบคลุมมิติของการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน เช่น การจัดการน้ำ การใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน และการแปรรูปผลผลิตท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า สื่อทั้งหมดได้รับการออกแบบให้เข้าใจง่ายและดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมในทุกช่วงวัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการบรรลุวัตถุประสงค์ข้อแรกของโครงการในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านทรัพยากรของชุมชน ซึ่งศูนย์การเรียนรู้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตลอดระยะเวลาโครงการ มีการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การเสวนา จากผลการประเมินความพึงพอใจ พบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ได้รับความรู้และแนวคิดใหม่ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการทรัพยากรในครัวเรือนและชุมชนของตนเองได้จริง ซึ่งสะท้อนถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน
โครงการประสบความสำเร็จอย่างสูงในการส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนอย่างแท้จริง โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการหรือกลุ่มแกนนำเพื่อบริหารจัดการศูนย์ฯ และกำหนดกติกาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆ ร่วมกัน คณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่ดูแล รักษา และพัฒนาศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นวิทยากรท้องถิ่นในการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งการดำเนินงานในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน (Ownership) เท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพผู้นำท้องถิ่นให้สามารถบริหารจัดการและขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนในพื้นที่ได้ด้วยตนเอง อันเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน ศูนย์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นนี้ได้กลายเป็นต้นแบบ (Best Practice) ในด้านการจัดการทรัพยากรที่คำนึงถึงมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล (Triple Bottom Line) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็น [ระบุประเด็นเด่น เช่น การจัดการขยะครบวงจร/การบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม] ผลงานนี้ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่ใกล้เคียงและต่างภูมิภาค ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผลแนวทางการจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืนออกไปในวงกว้างมากขึ้น การเป็นแหล่งอ้างอิงและจุดเรียนรู้จากภายนอกถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญของโครงการ
ซึ่งโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืนได้บรรลุวัตถุประสงค์หลักทั้งหมดที่ตั้งไว้ ด้วยการสร้างรากฐานความรู้ สร้างการมีส่วนร่วม และสร้างต้นแบบที่ชัดเจน ความพึงพอใจโดยรวมของผู้เข้าร่วมโครงการอยู่ในระดับสูง เป็นตัวบ่งชี้ถึงผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อทัศนคติและพฤติกรรมการจัดการทรัพยากรของคนในชุมชน แผนงานในระยะต่อไป จะเน้นการสร้างรายได้เสริมจากศูนย์ฯ เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองทางการเงิน และขยายฐานการบริการสู่โรงเรียนและเยาวชนอย่างเข้มข้น เพื่อรับประกันว่าศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในระยะยาว นอกจากนี้ผู้จัดทำรายงานสามารสรุปโครงการแยกย่อยตามกิจกรรมได่ดังนี้
1. กิจกรรมต้นน้ำ: การวางแผนและการจัดสรรงบประมาณ
กิจกรรมต้นน้ำเป็นขั้นตอนการวางรากฐานเชิงกลยุทธ์ โดยมีผลลัพธ์คือการจัดสรรงบประมาณรวม 2,000,000 บาท ให้กับโครงการย่อย 17 โครงการ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญของชุมชน เพื่อให้มั่นใจได้ว่างบประมาณจะถูกใช้ในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบโจทย์ปัญหาท้องถิ่นได้อย่างครอบคลุม.
2. กิจกรรมกลางน้ำ: การดำเนินงาน 17 โครงการย่อย
กิจกรรมนี้ คือ การขับเคลื่อนโครงการย่อยทั้ง 17 โครงการ โดยมีเป้าหมายหลักและผลผลิตที่คาดหวัง ดังนี้
โครงการย่อยทั้ง 17 โครงการครอบคลุม 4 มิติหลักของการจัดการทรัพยากรชุมชน ได้แก่
1. การจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม: เช่น โครงการศูนย์จัดการขยะพลาสติกชุมชนต้นแบบ, โครงการกุดรังโมเดลศูนย์การเรียนรู้พลังงานสะอาดเพื่อชุมชนพอเพียง, โครงการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์.
2. การพัฒนาอาชีพและเศรษฐกิจชุมชน: เช่น โครงการการพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการการจัดการคาร์บอน, โครงการพัฒนาระบบจัดการผลผลิตทางการเกษตรด้วยแฟลตฟอร์มตลาดออนไลน์, โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ผักปลอดภัยสู่มาตรฐาน GAP.
3. การจัดการทุนทางสังคมและวัฒนธรรม: เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้หมอลำจังหวัดมหาสารคาม, โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงอายุโรงเรียนวัยแก้ว.
4. การเสริมสร้างองค์ความรู้และการบริการวิชาการ: เช่น โครงการจัดตั้งศูนย์กฎหมายเพื่อพัฒนาท้องถิ่น, โครงการศูนย์การจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาผ่านชุมชน.
3. กิจกรรมปลายน้ำ: การติดตามและการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงปริมาณ
กิจกรรมปลายน้ำนี้เป็นการยืนยันความสำเร็จของโครงการในภาพรวม โดยมีเป้าหมายเชิงปริมาณที่ชัดเจนคือ ประชาชน 1,000 คน ต้องได้รับองค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สุดในการบรรลุวัตถุประสงค์หลักของโครงการในการ "พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน" และนำไปสู่การแก้ปัญหาและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในชุมชนท้องถิ่น.
สรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน (เน้นความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ)
1. การวางแผนเชิงกลยุทธ์และการจัดสรรงบประมาณสู่โครงการยั่งยืน (กิจกรรมต้นน้ำ โครงการเริ่มต้นด้วยการวางแผนเชิงกลยุทธ์ (กิจกรรมต้นน้ำ) และจัดสรรงบประมาณ ให้กับโครงการย่อยรวม 17 โครงการ เพื่อพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักที่ 4 โดยมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบในด้านการจัดการทรัพยากรที่หลากหลาย โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญเพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับ สิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น โครงการจัดการขยะพลาสติกต้นแบบและโครงการจัดการคาร์บอน การจัดสรรทรัพยากรที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นน้ำนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการบรรลุความหลากหลายและเชิงลึกของการพัฒนา
2. ความสำเร็จด้านการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (กิจกรรมกลางน้ำเน้นที่ 1) ในขั้นตอนกิจกรรมกลางน้ำ โครงการได้สร้างศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนของชุมชน โครงการที่โดดเด่น เช่น โครงการศูนย์จัดการขยะพลาสติกชุมชนต้นแบบ และ โครงการส่งเสริมการจัดการขยะสู่ศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้สร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในการลดปริมาณขยะและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาด้านพลังงานทางเลือกผ่าน โครงการกุดรังโมเดลศูนย์การเรียนรู้พลังงานสะอาดเพื่อชุมชนพอเพียง และ โครงการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ (Output 2: 15 ชุมชน) สามารถบริหารจัดการทรัพยากรของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดยิ่งขึ้น.
3. ความสำเร็จด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหารและยกระดับเศรษฐกิจ (กิจกรรมกลางน้ำเน้นที่ 2) โครงการได้สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน ผ่านการดำเนินงานโครงการย่อยที่เน้นการสร้างมูลค่าและมาตรฐาน โดยมีการจัดตั้ง ศูนย์เรียนรู้ความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรด้วย โครงการหมู่บ้านราชภัฏตามศาสตร์แห่งพระราชา: การยกระดับผลิตภัณฑ์ผักปลอดภัยสู่มาตรฐาน GAP ความสำเร็จเหล่านี้ถูกผนวกกับการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการชุมชนผ่าน โครงการการพัฒนาการเป็นประกอบการการจัดการคาร์บอน และการตลาดสมัยใหม่ด้วย แฟลตฟอร์มตลาดออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นตามเป้าหมาย (Output 1: 16 ชิ้น) ส่งผลให้ชุมชนมีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคงขึ้น.
4. การบรรลุเป้าหมายการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสิทธิภาพการดำเนินงาน จากการดำเนินงานตามกิจกรรมกลางน้ำอย่างเข้มข้น โครงการสามารถบรรลุเป้าหมายของ กิจกรรมปลายน้ำ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผลผลิตหลักคือ จำนวนประชาชนที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้หรือนวัตกรรมรวม 1,000 คน การบรรลุเป้าหมายเชิงปริมาณที่สูงนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงประสิทธิผลของศูนย์การเรียนรู้ที่ถูกสร้างขึ้น (Output 3: 16 กิจกรรม) และการบูรณาการองค์ความรู้จากรายวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยฯ เข้ากับการปฏิบัติงานจริง (Output 6: 20 รายวิชา) ทั้งนี้ โครงการย่อยที่ 17 ได้ดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลกิจกรรม ด้วยงบประมาณ 250,000 บาท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานตลอดโครงการมีความคุ้มค่าและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้.
โดยสรุป โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้บรรลุวัตถุประสงค์หลักในการสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืนได้อย่างชัดเจน ความสำเร็จจากการดำเนินงาน 17 โครงการย่อยที่เน้นหนักในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม (ขยะ พลังงาน) และการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ (GAP, คาร์บอน) ทำให้โครงการสามารถบรรลุเป้าหมายการถ่ายทอดความรู้เชิงปริมาณถึง 1,000 คน และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายด้านคุณภาพที่ ร้อยละความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ 80% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการได้สร้างรากฐานที่มั่นคงและเป็นที่ยอมรับในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป.

ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
ด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน เป็นการดึงศักยภาพของชุมชนโดยการใช้องค์ความรู้และนวัตกรรม ที่จะสามารถจัดการกับปัญหาทรัพยากรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มรายได้ และต่อยอดอาชีพของชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ด้านสังคม ศูนย์การเรียนรู้จะก่อให้เกิดการร่วมมือร่วมใจ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดูแลศูนย์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายแบบบูรณาการที่มีการรับผิดชอบในด้านทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน
ด้านการศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ จะเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมข้อมูลข่าวสาร ความรู้ของชุมชน เป็นแหล่งเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้ การถ่ายทอด การแลกเปลี่ยประสบการณ์ การสืบทอดภูมิปัญญา วัฒนธรรม ค่านิยม และเอกลักษณ์ของชุมชน อีกทั้งเป็นแหล่งบริการชุมชนด้านต่าง ๆ เช่น การจัดกิจกรรมที่สอดดคล้องกับความต้องการเรียนรู้ของชุมชนโดยเน้นกระบวนการการเรียนรู้เพื่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมก่อให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้และมุ่งการพัฒนาแบบพึ่งตนเอง นอกจากนี้ในการดำเนินการโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน ได้มีการบูรณาการการเรียนการสอนร่วมกับหลักสูตรการเรียนการสอนหลายสาขาวิชา
เพื่อนำองค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่มีไปใช้ในการแก้ปัญหาร่วมกับชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างเป็นระบบ
ด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน จะสร้างความตระหนักรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรในชุมชน การหมุนเวียนการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพ อีกทั้งได้มีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม ค่านิยม และเอกลักษณ์ของชุมชนให้คงอยู่ต่อไป

การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
โครงการ "พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืน" ของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (มรม.) เป็นการดำเนินการตามภารกิจหลักในการพัฒนาท้องถิ่น โดยอาศัยการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในมหาวิทยาลัย การมีส่วนร่วมของ นักศึกษา มีความสำคัญยิ่งในการเป็นพลังขับเคลื่อนภาคสนาม นักศึกษาจะทำหน้าที่เป็น นักวิจัยและนักสำรวจข้อมูล ในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ และใช้ทักษะด้านเทคโนโลยีและสื่อสารในการ สร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้ ที่ทันสมัยและน่าสนใจ นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็น วิทยากรและผู้จัดการกิจกรรม ในการถ่ายทอดองค์ความรู้จากศูนย์ฯ สู่ชุมชนและเยาวชน ทำให้ศูนย์ฯ มีความเคลื่อนไหว มีชีวิตชีวา และสามารถเชื่อมโยงปัญหากลับสู่การเรียนการสอนได้อย่างแท้จริง
ส่วนบทบาทของ บุคลากร (คณาจารย์และเจ้าหน้าที่) ถือเป็นกลไกหลักในการให้การสนับสนุนทางวิชาการและบริหารจัดการโครงการ บุคลากร มรม. จะทำหน้าที่เป็น ผู้นำทางวิชาการ ในการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Area-Based Research) เพื่อค้นหานวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การจัดการทรัพยากรของชุมชนโดยตรง พวกเขารับผิดชอบในการ ออกแบบและพัฒนาหลักสูตร การเรียนรู้ของศูนย์ฯ ให้มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น รวมถึงการ บริการวิชาการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้านต่างๆ (เช่น การแปรรูป การตลาด) ให้แก่ชุมชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
การผสมผสานการมีส่วนร่วมนี้ทำให้ศูนย์การเรียนรู้ฯ กลายเป็นมากกว่าสถานที่ แต่เป็น ระบบนิเวศการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน โดยบุคลากรเป็นผู้กำหนดทิศทางเชิงนโยบายและวิชาการ ส่วนนักศึกษาเป็นผู้ปฏิบัติการและเป็นเสมือน "สะพาน" ที่เชื่อมโยงความรู้ของมหาวิทยาลัยเข้ากับบริบทของชุมชน การดำเนินงานที่อาศัยทั้งพลังงาน แรงกาย และความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษา ร่วมกับความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ของบุคลากร จะช่วยให้ มรม. สามารถบรรลุพันธกิจในการเป็น ที่พึ่งทางปัญญา ของท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรชุมชนอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียงได้สำเร็จ

ความต่อเนื่องของโครงการ :
-

ปัญหา/อุปสรรค :
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการยักษ์ที่มีโครงการย่อยหลากหลาย (17 โครงการ) และมีเป้าหมายเชิงปริมาณสูง (ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ 1,000 คน ) มักแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ดังนี้
1. อุปสรรคด้านการบริหารจัดการและการบูรณาการ
ปัญหา: การบริหารจัดการโครงการย่อยจำนวนมากถึง 17 โครงการพร้อมกันภายใต้งบประมาณและกรอบเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงาน การใช้ทรัพยากร และการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกัน (เช่น การจัดการขยะมี 2 โครงการ และการเกษตรมีหลายโครงการ)
อุปสรรค: ความท้าทายในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล (กิจกรรมปลายน้ำ) ที่ต้องรวบรวมข้อมูลและผลผลิต (Output) ที่หลากหลายมาก เช่น สิ่งประดิษฐ์/ผลิตภัณฑ์, คู่มือ, การบูรณาการรายวิชา, และจำนวนนักศึกษา ซึ่งทำให้การประเมินผลลัพธ์รวมมีความซับซ้อนและใช้เวลาสูง
2. อุปสรรคด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน
ปัญหา : โครงการมีความหลากหลายทางด้านเนื้อหาสูงมาก (ตั้งแต่หมอลำ, GAP, การศึกษา, พลังงานสะอาด, กฎหมาย) ทำให้การถ่ายทอดองค์ความรู้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากหลายสาขา และอาจทำให้ประชาชนในชุมชนบางส่วนเข้าใจหรือนำไปปฏิบัติได้ยาก
อุปสรรค : การบรรลุเป้าหมายเชิงปริมาณที่ต้องถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นถึง 1,000 คน อาจทำได้ยากหากขาดกลไกการสร้างแรงจูงใจที่ต่อเนื่อง และอาจมีปัญหาในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ (โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงอายุ) และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีเวลาจำกัด
3. อุปสรรคด้านความยั่งยืนและการสร้างความต่อเนื่องของศูนย์ฯ
ปัญหา: ศูนย์การเรียนรู้ที่จัดตั้งขึ้นใหม่หลายแห่ง (Output 2: 15 ชุมชน ) อาจขาดแผนงานด้านการตลาดและการหารายได้ด้วยตนเองอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ขาดงบประมาณในการดำเนินงานหลังสิ้นสุดโครงการ
อุปสรรค: ความต่อเนื่องในการบริหารจัดการของชุมชนอาจหยุดชะงัก หากขาดการส่งมอบและถ่ายโอนอำนาจการบริหารจัดการศูนย์ฯ (Ownership) จากทีมงานมหาวิทยาลัยฯ ไปสู่คณะกรรมการชุมชนที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง

แนวทางการปรับปรุง :
1.จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการ (PMO) ส่วนกลาง: โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการจากมหาวิทยาลัยฯ ทำหน้าที่ควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณ และกำหนดมาตรฐานการจัดทำเอกสาร คู่มือศูนย์การเรียนรู้ (Output 4) ให้เป็นแบบเดียวกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนและอำนวยความสะดวกในการติดตามประเมินผล
2.กำหนดวิทยากรพี่เลี้ยงชุมชน (Community Coach): คัดเลือกและฝึกอบรมบุคคลในพื้นที่ให้เป็นวิทยากรพี่เลี้ยงในแต่ละศูนย์ฯ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและขยายผลองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดจากมหาวิทยาลัยฯ สู่ครัวเรือน ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 1,000 คน ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
3.จัดทำแผนธุรกิจและการตลาดอย่างง่าย: โครงการย่อยที่เน้นผลิตภัณฑ์ (เช่น GAP, การแปรรูปสมุนไพร) ควรมีกิจกรรมที่ต่อยอดไปยังการสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์ (เช่น โครงการพัฒนาระบบจัดการผลผลิตทางการเกษตรฯ) และการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ (Learning Tourism) เพื่อให้ศูนย์ฯ มีงบประมาณหมุนเวียนและสามารถดำเนินการต่อได้ด้วยตนเอง
4 จัดทำพิธีการส่งมอบศูนย์ฯ อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง นอกจากการจัดทำคู่มือแล้ว 24ควรจัดทำ "แผนการดูแลศูนย์ฯ หลังสิ้นสุดโครงการ (Exit Strategy)" ที่กำหนดบทบาทและงบประมาณที่ชุมชนต้องรับผิดชอบชัดเจน โดยให้ทีมติดตามประเมินผล (โครงการที่ 17) ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในช่วง 6 เดือนแรกหลังสิ้นสุดโครงการ

ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
1. เน้นการสร้างรายได้ศูนย์ฯ: บังคับให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (เช่น โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน, GAP) ต้องมีส่วนของการ สร้างรายได้ (Revenue Stream) ให้กับศูนย์ฯ อย่างชัดเจน เพื่อให้ศูนย์สามารถพึ่งพาตนเองทางการเงินได้ในระยะยาว
2.กำหนดดัชนีชี้วัดความยั่งยืน: นอกเหนือจากความพึงพอใจ ควรเพิ่มดัชนีชี้วัดความยั่งยืน เช่น อัตราการลดลงของการพึ่งพาเงินทุนภายนอก หรือ จำนวนกิจกรรมที่ศูนย์ฯ จัดขึ้นเองโดยไม่มีการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยฯ

SDGs RMU