โครงการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐาน (ร่วมผลิต)

Competency-Based Educational Innovator Development Project for Local Development (Collaborative Program)

ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : อ.ดร.มณฑิรา จันทวารีย์

SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อย

ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : การผลิตและพัฒนาครูมืออาชีพ

แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน

กลุ่มเป้าหมาย : บุคลากร

Project Implementation Area : คณะวิทยาศาวตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ตำบล Talat อำเภอ Mueang Maha Sarakham จังหวัด Maha Sarakham 44000

Project Duration: June 1, 2025 – July 31, 2025

Objectives :
1 เพื่อพัฒนานักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะตาม PTRU Model ได้แก่ ด้านวิชาชีพ การคิดวิเคราะห์ ความรับผิดชอบ และค่านิยมสากล
2 เพื่อพัฒนานักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีความสามารถออกแบบแนวคิดหรือต้นแบบนวัตกรรมทางการศึกษาที่ตอบโจทย์บริบทของพื้นที่ได้อย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์
3 เพื่อพัฒนานักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาสามารถสะท้อนบทเรียนหรือถอดประสบการณ์จากการดำเนินโครงการ และเสนอแนวทางในการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมทางการศึกษาได้

Activities :
1.กิจกรรมการวางรากฐานสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการเตรียมตัวเป็นครูอาชีพ
2.กิจกรรมการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐาน
3.กิจกรรมขยายผลและสร้างความยั่งยืน ผลการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐาน

Number of project participants: 280 people

Project Budget: 200,000 Baht

Results :
ผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาสมรรถนะตาม PTRU Model มีความสามารถคิดวิเคราะห์ สร้างนวัตกรรม และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และเทคโนโลยี AI ในการพัฒนาการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

Results society :
ในมิติด้านสังคม โครงการนี้จะก่อให้เกิดการสร้างจิตสำนึกสาธารณะในหมู่ผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะนักศึกษาและครูรุ่นใหม่ ที่จะมีโอกาสเรียนรู้จากการลงพื้นที่ สัมผัสกับปัญหาและศักยภาพของชุมชนอย่างใกล้ชิด กระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชนจะเสริมสร้างทักษะทางสังคม การทำงานเป็นทีม ความเห็นอกเห็นใจ และการเคารพความหลากหลาย โครงการยังช่วยเชื่อมร้อยความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการศึกษากับชุมชน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนต่างวัย ต่างพื้นเพ สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งในระยะยาว ที่สำคัญคือ โครงการจะเป็นเวทีสำหรับสร้าง “พลเมืองที่เข้มแข็ง” ซึ่งมีบทบาทและความรับผิดชอบต่อการพัฒนาสังคมของตนเองอย่างต่อเนื่อง

Participation :
ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์อย่างรอบด้านทั้งในเชิงวิชาการและการพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะการเสริมสร้างสมรรถนะที่สำคัญตาม PTRU Model ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาชีพ การคิดวิเคราะห์ ความรับผิดชอบ และค่านิยมสากล ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิตในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้มีโอกาสเพิ่มพูนทักษะใหม่ ปรับทักษะเดิม และยกระดับทักษะที่มีอยู่ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและระบบการศึกษา
ในกระบวนการอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่หลากหลาย อาทิ การทำงานเป็นทีม การมีจิตอาสาและจิตสาธารณะ การเป็นพลเมืองดี ตลอดจนทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้สัมผัสกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการศึกษา ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นได้อย่างสร้างสรรค์
สำหรับนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพนั้น โครงการจะเป็นพื้นที่สำคัญในการพัฒนาความมั่นใจ ความคิดสร้างสรรค์ และความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้ฝึกทักษะการถอดบทเรียนและการสะท้อนประสบการณ์ เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดสู่การเป็นนวัตกรทางการศึกษาอย่างแท้จริง สุดท้าย ผู้เข้าร่วมทุกคนยังได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ครู บุคลากรทางการศึกษา และชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป

Project continuity :
1. รวบรวมและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของโครงการในปีที่ผ่านมา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาปีต่อไป
2. ปรับปรุงและออกแบบกิจกรรมการอบรมให้เข้มข้นและตรงกับสมรรถนะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน
3. พัฒนากิจกรรมเชิงลึกด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และการออกแบบการเรียนการสอนเชิงสร้างสรรค์
4. ขยายความร่วมมือกับโรงเรียน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรชุมชน เพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืน
5. ติดตามผลและประเมินการนำผลงานนวัตกรรมไปใช้จริงในสถานศึกษาและชุมชน
6. ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีศักยภาพทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงหรือวิทยากรแกนนำ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้รุ่นต่อไป
7. เชื่อมโยงผลลัพธ์ของโครงการเข้าสู่การพัฒนาหลักสูตร งานวิจัย และบริการวิชาการของมหาวิทยาลัย
8. ยกระดับมหาวิทยาลัยให้มีบทบาทเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

Problems obstacles :
ในการดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐาน พบว่าสภาพปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นหลายด้าน แม้ว่ากิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการจะสามารถพัฒนาทักษะและสมรรถนะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพได้ตามเป้าหมาย แต่การดำเนินงานก็เผชิญกับข้อจำกัดที่ท้าทายหลายประการ
ด้านเวลาและตารางเรียนถือเป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากนักศึกษาและบุคลากรต้องปฏิบัติงานและเข้าร่วมกิจกรรมควบคู่กับภาระการเรียน ส่งผลให้บางครั้งผู้เข้าร่วมไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่อเนื่องตามแผนได้ จึงต้องมีการปรับตารางอบรมอย่างยืดหยุ่นเพื่อรองรับความพร้อมของผู้เข้าร่วม ขณะเดียวกัน ความแตกต่างด้านพื้นฐานความรู้และทักษะของผู้เข้าร่วมแต่ละสาขาวิชาก็สร้างความท้าทายในการจัดกิจกรรม การใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการประยุกต์ปัญญาประดิษฐ์ในการทำโครงงานวิจัย พบว่าผู้เข้าร่วมบางคนยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้เต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การสื่อสารและการประสานงานระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน และหน่วยงานภายนอกบางครั้งมีความล่าช้า ทำให้การจัดกิจกรรมบางส่วนต้องปรับเปลี่ยนหรือเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม โครงการสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการเตรียมสื่อและเครื่องมือเสริม การปรับตารางอบรมให้เหมาะสม และการสื่อสารล่วงหน้า ทำให้กิจกรรมส่วนใหญ่สามารถดำเนินไปตามเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมยังสามารถพัฒนาสมรรถนะตาม PTRU Model และสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม

Improvement :
เพื่อให้การดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐานดำเนินไปอย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมาย แนวทางการแก้ไขปัญหาที่สำคัญคือการปรับรูปแบบและกระบวนการจัดกิจกรรมให้ยืดหยุ่นเหมาะสมกับตารางเรียนและภาระงานของผู้เข้าร่วม โดยสามารถจัดอบรมเป็นรอบย่อยหรือจัดเป็นกิจกรรมออนไลน์ควบคู่กับการอบรมปฏิบัติการ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าร่วมครบถ้วน
นอกจากนี้ การเตรียมสื่อและอุปกรณ์เทคโนโลยีดิจิทัลให้พร้อม และการจัดอบรมเสริมพื้นฐานสำหรับผู้เข้าร่วมที่มีความรู้ไม่เท่ากัน จะช่วยลดช่องว่างด้านสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ การประสานงานและสื่อสารกับหน่วยงานภายนอกอย่างเป็นระบบและล่วงหน้า จะช่วยให้การจัดกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนหรือชุมชนไม่ล่าช้า
การสร้างเครือข่ายสนับสนุนระหว่างนักศึกษา ครู และบุคลากร จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทีมงานสามารถปรับปรุงกิจกรรมได้ทันเวลา ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมสามารถพัฒนาสมรรถนะตาม PTRU Model และสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

Suggestions :
จากการดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้สมรรถนะเป็นฐาน พบว่ามีหลายประเด็นที่ควรนำไปปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต อันดับแรก ควรพิจารณาขยายระยะเวลาในการจัดกิจกรรมให้มีความต่อเนื่องมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกปฏิบัติและต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้รับอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ควรเสริมเครื่องมือและสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการของผู้เข้าร่วมอย่างทั่วถึง อีกทั้งควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน และชุมชน เพื่อสนับสนุนการนำผลงานและนวัตกรรมไปใช้จริงในบริบทต่าง ๆ ขณะเดียวกันการติดตามผลหลังการอบรมก็มีความสำคัญ เพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของผู้เข้าร่วมในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้จริง และเป็นข้อมูลที่ใช้กำหนดทิศทางโครงการในระยะต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SDGs RMU