สโมสรนักศึกษาคณะนิติศาสตร์อาสาพัฒนาชุมชนแบบบูรณาการโดยใช้กระบวนการวิศวกรสังคม
ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : อ.ดร.กริช สินธุศิริ
SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อยความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค
แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน
กลุ่มเป้าหมาย : นักศึกษา
พื้นที่ดำเนินงาน : โรงเรียนบรบือ ตำบล บรบือ อำเภอ บรบือ จังหวัด มหาสารคาม 44130
ระยะเวลาดำเนินงาน : 24 มกราคม 2568 – 27 มกราคม 2568
วัตถุประสงค์โครงการ :
เพื่อเพิ่มทักษะด้าน soft skills ด้วย กระบวนการวิศวกรสังคมสำหรับผู้นำนักศึกษาเพื่อเป็นแม่ไก่ ในการพัฒนาโรงเรียนและชุมชนในเขตจังหวัดมหาสารคาม
กิจกรรมหลัก :
สโมสรอาสาพัฒนาชุมชนแบบบรูณาการศาสตร์โดยใช้กระบวนการวิศวกรสังคม
จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 100 คน
งบประมาณที่ใช้ : 100,000 บาท
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
1. บุคลากร เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และนักเรียน จำนวน 108 คน ได้รับการพัฒนาทักษะด้าน Soft Skills ผ่านกระบวนการวิศวกรสังคม ได้แก่ ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) การสื่อสาร (Communication) การประสานงาน (Collaboration) และการสร้างนวัตกรรม (Creativity)
2. เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) ระหว่างมหาวิทยาลัยและโรงเรียนบรบือวิทยาคาร ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจบทบาทของตนในฐานะ “วิศวกรสังคมรุ่นใหม่” ที่สามารถแก้ปัญหาในชุมชนได้
3. นักศึกษาสามารถนำเครื่องมือของวิศวกรสังคม เช่น ฟ้าประทาน นาฬิกาชีวิต Timeline พัฒนาการ Timeline กระบวนการ และ M.I.C. Model ไปใช้จริงในการทำกิจกรรมพัฒนาชุมชน
4. บุคลากรคณะนิติศาสตร์มีความเข้าใจและสามารถทำหน้าที่เป็น Facilitator และ Coach เพื่อสนับสนุนการพัฒนานักศึกษาและชุมชนอย่างยั่งยืน
5. เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง 8 คณะภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในการบูรณาการศาสตร์เพื่อพัฒนานักศึกษาและชุมชนร่วมกัน
ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
ด้านเศรษฐกิจ
- ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำทักษะการวางแผนและคิดเชิงระบบไปใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรในชุมชน ส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโรงเรียนและท้องถิ่น
- เกิดแนวคิดโครงการย่อยจากนักศึกษาและนักเรียนที่สามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมพัฒนาอาชีพ เช่น การรีไซเคิลขยะ การออกแบบผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้
ด้านสังคม
- บุคลากร เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และนักเรียนร่วมกันสร้าง “สังคมแห่งการเรียนรู้” (Learning Society) ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองในการแก้ปัญหา
- นักศึกษาและบุคลากรมีบทบาทเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ที่สามารถเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้กำลังใจแก่เพื่อนนักศึกษาในประเด็นปัญหาชีวิต การเรียน การทำงาน และครอบครัว
- เกิดกระบวนการทำงานเป็นทีม (Teamwork) อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชน
ด้านการศึกษา
- นักศึกษาและนักเรียนมีโอกาสเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริงจากการใช้กระบวนการวิศวกรสังคม ส่งผลให้เข้าใจแนวทางการพัฒนาตนเองและสังคมอย่างมีระบบ
- เกิดแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชา “นิติศาสตร์กับสังคม” ที่เชื่อมโยงกับกระบวนการวิศวกรสังคม
- คณาจารย์สามารถนำผลการดำเนินงานมาพัฒนาเป็น รูปแบบการอบรม Soft Skills สำหรับนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย
ด้านสิ่งแวดล้อม
- นักศึกษาและชุมชนตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและแนวคิด “Green Education”
- เกิดกิจกรรมต้นแบบที่ใช้กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการขยะ การออกแบบโครงการอนุรักษ์พลังงานในโรงเรียน
การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
1. นักศึกษาเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมหลัก ร่วมออกแบบกิจกรรม ฝึกทักษะ และสะท้อนผลการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง
2. บุคลากรคณะนิติศาสตร์ทำหน้าที่เป็นวิทยากร ที่ปรึกษา และผู้ประสานความร่วมมือกับโรงเรียนบรบือวิทยาคาร
3. การทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากร อาจารย์ นักศึกษา และนักเรียนก่อให้เกิดเครือข่าย “นักพัฒนาสังคมรุ่นใหม่” ที่มีจิตสำนึกสาธารณะ
ความต่อเนื่องของโครงการ :
1. โครงการสามารถพัฒนาเป็นกิจกรรมประจำปีของคณะนิติศาสตร์ ในรูปแบบ “โครงการพัฒนานักศึกษาผู้นำวิศวกรสังคมเพื่อชุมชน”
2. ผลการอบรมจะถูกนำไปบูรณาการกับรายวิชาด้านพัฒนาชุมชน กฎหมาย และกิจการนักศึกษา
3. เกิดแนวทางการสร้างเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัยกับโรงเรียนในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
4. สามารถต่อยอดเป็นรูปแบบโครงการบ่มเพาะ Soft Skills สำหรับนักศึกษาใหม่ในทุกคณะของมหาวิทยาลัย
ปัญหา/อุปสรรค :
1. ระยะเวลาในการดำเนินโครงการค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมติดตามผลหลังอบรมได้อย่างเต็มรูปแบบ
2. งบประมาณมีข้อจำกัดต่อการจัดทำสื่อและอุปกรณ์สำหรับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ
3. การประสานงานระหว่างหลายคณะและหน่วยงานภายนอกต้องใช้เวลานานและมีข้อจำกัดด้านตารางเวลา
4. ผู้เข้าร่วมบางส่วนยังขาดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการวิศวกรสังคม ต้องใช้เวลาปรับพื้นฐานก่อนเข้าสู่กิจกรรม
แนวทางการปรับปรุง :
1. จัดทำแผนอบรมเชิงลึกในลักษณะ “Social Engineer Camp” เพื่อพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
2. พัฒนา ฐานข้อมูลและสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล (E-Learning Tools) สำหรับการเรียนรู้กระบวนการวิศวกรสังคมในรูปแบบออนไลน์
3. ขยายเครือข่ายความร่วมมือกับโรงเรียนและองค์กรท้องถิ่นในจังหวัด เพื่อสร้างพื้นที่เรียนรู้และพัฒนาทักษะจริง
4. เพิ่มกิจกรรมติดตามผลและการวัดสมรรถนะ Soft Skills ของนักศึกษาแบบเป็นระบบ
ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
1. สนับสนุนให้คณะนิติศาสตร์พัฒนา “ศูนย์การเรียนรู้ด้านวิศวกรสังคม” เป็นแหล่งฝึกอบรมถาวร
2. ส่งเสริมให้โครงการนี้เป็นต้นแบบของการบูรณาการการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Active Learning & Service Learning)
3. จัดสรรงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนในการพัฒนานักศึกษาด้าน Soft Skills
4. ขยายผลไปยังเครือข่ายราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนา “วิศวกรสังคม” ร่วมกัน