โครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์

โครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์

ผู้รับผิดชอบ ให้ข้อมูล : อ.สุนิศา โพธิแสนสุข

SDG ที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมายย่อย

ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย : พันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค

แหล่งงบประมาณ : งบประมาณแผ่นดิน

กลุ่มเป้าหมาย : นักศึกษา

พื้นที่ดำเนินงาน : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ตำบล ตลาด อำเภอ เมืองมหาสารคาม จังหวัด มหาสารคาม 44000

ระยะเวลาดำเนินงาน : 19 มิถุนายน 2568 – 22 มิถุนายน 2568

วัตถุประสงค์โครงการ :
1. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลิกภาพของนักศึกษาให้มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม และมีเอกลักษณ์ด้านสไตล์การแต่งกายแบบไทยร่วมสมัย
2. เพื่อปลูกฝังและอนุรักษ์ความเป็นไทย

กิจกรรมหลัก :
1. กิจกรรมอบรมพัฒนาบุคลิกภาพเบื้องต้น
- เนื้อหาเกี่ยวกับการวางตัว การเดิน การยืน การนั่งอย่างสง่างาม
- การสื่อสารอย่างมั่นใจและเหมาะสมกับกาลเทศะ
- การฝึกบุคลิกภาพผ่านกิจกรรมกลุ่มและแบบฝึกปฏิบัติ
2. กิจกรรมแนะนำการแต่งกายและสไตล์แบบไทยร่วมสมัย
- ความรู้เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายไทยพื้นถิ่น/ร่วมสมัย
- เทคนิคการแต่งกายให้เหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิก
- การปรับลุคให้ดูดีในแบบไทยประยุกต์

จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ : 45 คน

งบประมาณที่ใช้ : 100,000 บาท

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น :
เกิดการพัฒนาบุคลิกภาพและจิตสำนึกด้านวัฒนธรรมในกลุ่มนักศึกษาและบุคลากร
ผู้เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในเชิงบวก สามารถนำความรู้ด้านการแต่งกาย มารยาท และการวางตัวในสังคมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม สะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและการเป็นตัวแทนของเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกดี มีความมั่นใจ และมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับสังคม

เกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมและสื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในรูปแบบใหม่
โครงการนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางกิจกรรม เช่น การประกวดการแต่งกายแบบไทยร่วมสมัย การเดินแบบผ้าไทย การจัดนิทรรศการ หรือสื่อประชาสัมพันธ์ที่ส่งเสริมการแต่งกายสุภาพตามวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดองค์ความรู้เชิงสร้างสรรค์และขยายผลไปสู่สังคมภายนอกมหาวิทยาลัยอย่างกว้างขวาง

ผลกระทบต่อชุมชน/สังคม :
เสริมสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของชุมชนและมหาวิทยาลัยในฐานะต้นแบบการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
การดำเนินโครงการช่วยสร้างกระแสการแต่งกายและการวางตัวที่เหมาะสมในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและประชาชนทั่วไป เกิดการตระหนักรู้ในคุณค่าความเป็นไทย และสร้างภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยในฐานะผู้นำด้านศิลปวัฒนธรรมที่สามารถเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง

ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนในการสืบสานอัตลักษณ์ไทย
โครงการก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในท้องถิ่นในการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การสาธิตการแต่งกายแบบไทย การฝึกอบรมมารยาทไทย และการจัดแสดงแฟชั่นไทยร่วมสมัย อันเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันการศึกษาและสังคม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเอง

การมีส่วนร่วมของนักศึกษา/บุคลากร :
การดำเนินโครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์แบบไทย มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักศึกษาและบุคลากร เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นไทยในยุคสมัยใหม่ และปลูกฝังการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยผ่านการแต่งกาย มารยาท และบุคลิกภาพที่เหมาะสม โดยมีการมีส่วนร่วมในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

การมีส่วนร่วมของนักศึกษา
นักศึกษามีบทบาทสำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การเรียนรู้การแต่งกายตามวัฒนธรรมไทยในแต่ละยุคสมัย การเรียนรู้กิริยามารยาทและการวางตัวในสังคม รวมถึงการแสดงออกถึงความเป็นไทยอย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมเดินแบบ การนำเสนอแฟชั่นไทยประยุกต์ และการเป็นตัวแทนเผยแพร่แนวคิด “บุคลิกดีมีสไตล์แบบไทย” สู่เพื่อนนักศึกษาและชุมชนในวงกว้าง ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของนักศึกษาช่วยพัฒนาให้เกิดทักษะด้านความมั่นใจ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย

การมีส่วนร่วมของบุคลากร
บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษา อบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ และร่วมเป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการแก่นักศึกษา โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ การวางตัวอย่างเหมาะสมในสังคม และการเข้าใจบริบทของความเป็นไทยในเชิงวัฒนธรรม บุคลากรยังมีบทบาทในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด หรือสถาบันออกแบบแฟชั่น เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันแห่งการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย

การบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกัน
การทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษาและบุคลากรภายใต้โครงการนี้เป็นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมเข้ากับการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนบุคคล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความภูมิใจในความเป็นไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม การมีจิตอาสา และการเป็นพลเมืองที่มีภาพลักษณ์เหมาะสมกับสังคมไทยยุคปัจจุบัน

ความต่อเนื่องของโครงการ :
การพัฒนากิจกรรมต่อยอดสู่การเรียนรู้เชิงบูรณาการ
โครงการสามารถต่อยอดให้เกิดการบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรม การสื่อสาร หรือการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การแสดงแฟชั่นไทยร่วมสมัย หรือการเป็นวิทยากรร่วมในชุมชน ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะวิชาชีพ ควบคู่กับการปลูกฝังจิตสำนึกในคุณค่าความเป็นไทย

การจัดให้เป็นกิจกรรมประจำปีของมหาวิทยาลัย
ผลสำเร็จของโครงการควรได้รับการพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประจำปี เพื่อเป็นเวทีให้คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนและหน่วยงานภายนอกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมไทย การดำเนินงานในลักษณะนี้จะช่วยให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่และส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยสู่สังคมในระยะยาว

ปัญหา/อุปสรรค :
แม้โครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์แบบไทยจะดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในภาพรวม แต่ระหว่างกระบวนการดำเนินโครงการพบว่า มีสภาพปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ดังต่อไปนี้:
1. ข้อจำกัดด้านเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา
นักศึกษาหลายรายมีตารางเรียนหรือภารกิจตรงกับช่วงเวลาจัดกิจกรรม ส่งผลให้บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้ครบถ้วน ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมลดลงจากที่ตั้งเป้าไว้
2. การรับรู้และความเข้าใจในความสำคัญของโครงการยังไม่ทั่วถึง
นักศึกษาบางส่วนยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างบุคลิกภาพและอัตลักษณ์แบบไทย จึงขาดแรงจูงใจในการเข้าร่วมในช่วงต้นโครงการ
3. ข้อจำกัดด้านสถานที่จัดกิจกรรม
พื้นที่บางส่วนไม่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติ เช่น การฝึกเดิน การแต่งกาย หรือกิจกรรมกลุ่ม ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินกิจกรรมบางช่วง
4. อุปกรณ์ประกอบกิจกรรมมีจำนวนจำกัด
อุปกรณ์และสื่อสนับสนุนบางประเภท เช่น ชุดไทย ชุดฝึกบุคลิกภาพ หรือสื่อการเรียนรู้ มีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนผู้เข้าร่วม ส่งผลให้ต้องจัดกิจกรรมแบบหมุนเวียน
5. ข้อจำกัดด้านงบประมาณในบางกิจกรรม
แม้จะได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณโครงการ 100 ปี แต่บางกิจกรรมที่ต้องการวัสดุเฉพาะหรือการเชิญวิทยากรจากภายนอก ยังมีข้อจำกัดด้านค่าใช้จ่าย
6. การสื่อสารและการประสานงานในบางส่วนล่าช้า
ในบางช่วงของการเตรียมงาน มีความล่าช้าในการสื่อสารระหว่างคณะทำงานและวิทยากร ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนกำหนดการในบางช่วงอย่างกะทันหัน

แนวทางการปรับปรุง :
จากปัญหาและอุปสรรคที่พบในการดำเนินโครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์แบบไทย ได้มีการพิจารณาและกำหนดแนวทางในการแก้ไขเพื่อให้การดำเนินโครงการในครั้งต่อไปเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้:
1. ปรับเวลาและรูปแบบกิจกรรมให้ยืดหยุ่นมากขึ้น
ควรวางแผนกิจกรรมให้สอดคล้องกับตารางเรียนของนักศึกษา หรือจัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พร้อมเปิดทางเลือกให้ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแบบออนไลน์หรือดูย้อนหลังในรูปแบบวิดีโอบันทึกกิจกรรม
2. ประชาสัมพันธ์โครงการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
ใช้ช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย และการประชาสัมพันธ์ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความสนใจของนักศึกษาให้เห็นถึงความสำคัญของบุคลิกภาพและวัฒนธรรมไทย
3. เตรียมสถานที่จัดกิจกรรมให้เหมาะสมล่วงหน้า
เลือกสถานที่ที่มีความพร้อมทั้งด้านพื้นที่ แสงสว่าง ระบบเสียง และความสะดวกในการเคลื่อนไหว เพื่อให้กิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
4. วางแผนการใช้งบประมาณให้ครอบคลุมกิจกรรมหลัก
ควรสำรองงบประมาณสำหรับรายการสำคัญที่จำเป็น เช่น ชุดฝึกปฏิบัติ สื่อการเรียนการสอน หรือค่าตอบแทนวิทยากร เพื่อป้องกันการขาดแคลนทรัพยากรในช่วงจัดกิจกรรม
5. เพิ่มจำนวนอุปกรณ์และสื่อประกอบกิจกรรม
หากจัดกิจกรรมที่ต้องใช้ชุดไทยหรืออุปกรณ์เฉพาะทาง ควรจัดเตรียมให้เพียงพอต่อผู้เข้าร่วม โดยอาจร่วมมือกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย หรือภาคีเครือข่ายด้านวัฒนธรรมในท้องถิ่น
6. ปรับปรุงกระบวนการประสานงานและบริหารจัดการโครงการ
ควรมีการวางแผนงานล่วงหน้าอย่างชัดเจน กำหนดหน้าที่ของคณะทำงานอย่างเป็นระบบ และมีช่องทางติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้าในการดำเนินงาน

ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลัย :
สนับสนุนการดำเนินโครงการเชิงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
มหาวิทยาลัยควรจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เช่น โครงการเสริมสร้างบุคลิกดีมีสไตล์แบบไทย เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพัฒนานักศึกษาเชิงคุณธรรม จริยธรรม และภาพลักษณ์ที่เหมาะสมตามแบบวัฒนธรรมไทย

สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อขยายผลโครงการ
ควรส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น เช่น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ศูนย์ผ้าไทย หรือสถาบันออกแบบแฟชั่น เพื่อขยายผลโครงการให้เกิดการเรียนรู้ข้ามสถาบันและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัยในฐานะผู้นำด้านการอนุรักษ์และเผยแพร่ Soft Power ทางวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน

SDGs RMU